วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564

แพทย์แผนไทยแนะนำ เมนูอาหารจาก เครื่องแกง-น้ำพริก ป้องกันโรคหัวใจได้

 

แพทย์แผนไทยแนะนำ เมนูอาหารจาก เครื่องแกง-น้ำพริก ป้องกันโรคหัวใจได้

สมุนไพรที่เป็นส่วนผสมอยู่ในเครื่องแกงและน้ำพริก ของไทย ที่ช่วยควบคุมไขมันและน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ 

  1. กระเทียม
  2. ข่า
  3. ตะไคร้
  4. หอมแดง
  5. กระชาย
  6. พริกไทย
  7. ขิง 

สมุนไพรไทยเหล่านี้ สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายรายการ เช่น 

  • แกงป่า
  • แกงส้ม
  • แกงเลียง 

และน้ำพริกต่างๆ เช่น 

  1. น้ำพริกหนุ่ม
  2. น้ำพริกอ่อง
  3. น้ำพริกปลาทู
  4. น้ำพริกมะขามป้อม 

เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่ช่วยควบคุมไขมันในเลือดได้ คือ 

น้ำหรือชากระเจี๊ยบแดง 

วิธีทำ

นำกลีบดอกกระเจี๊ยบแดงแบบแห้งหรือผงขนาด 2-3 กรัม ชงในน้ำร้อน 120-200 มิลลิลิตร ทิ้งไว้ 3-5 นาที รับประทานวันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร 

จากการศึกษาวิจัยพรีคลินิก พบว่า กระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ลดความดันและไขมันในเลือด โดยเฉพาะไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อร่างกาย (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) 

น้ำตรีผลา

ประกอบด้วยสมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม ในอัตราส่วน 1:1:1 

รูปแบบและวิธีการใช้

ทำได้เช่นเดียวกันกับกระเจี๊ยบแดง 

จากการศึกษาวิจัยทั้งในห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ได้ผลออกมาในทิศทางเดียวกันคือ ตรีผลา สามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อร่างกาย (LDL) และไขมันโดยรวมได้ แม้ว่าอาจจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย คือ อาการถ่ายเหลว เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ แต่ไม่มีรายงานความเป็นพิษต่อตับและไต

นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากสมุนไพรในเครื่องแกง รายการอาหาร และน้ำสมุนไพรที่แนะนำแล้ว ยังต้องรู้จักปรับพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดควบคู่กันไปด้วย โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดการสูบบุหรี่ งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำกัดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยหรือการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค ให้ปรึกษาแพทย์แผนไทยในสถานบริการสุขภาพของรัฐได้ทั่วประเทศ หรือติดต่อโดยตรงที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก กรมการแพทย์แผนไทยฯ และ ไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก line@DTAM

ติดตามสาระน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเคิมได้ที่>>> https://saruknaruu.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น