วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564

แจก 7 สูตร DIY มาสก์หน้า "ลดรอยสิว"

 แจก 7 สูตร DIY มาสก์หน้า "ลดรอยสิว" 

1 มาสก์น้ำผึ้ง + อบเชย

เริ่มต้นด้วยสูตรมาสก์ลดรอยสิวแบบฉบับ DIY สูตรแรกอย่าง มาสก์น้ำผึ้ง + อบเชย ก่อนเลยค่ะ สาวๆ รู้รึเปล่าว่าน้ำผึ้งที่นำมาราดขนมปังหรือชงผสมกับเครื่องดื่ม ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยเพิ่มพลังความสวยและแก้ปัญหาผิวได้เหมือนกันนะ เพราะ “ น้ำผึ้ง ” มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วออกไป พอนำมาผสมกับ “ อบเชย ” ที่มีฤทธิ์ต้านจุลชีพและต้านการอักเสบ เลยกลายเป็นสูตรมาสก์หน้าที่ช่วยลดรอยสิวให้แลดูจางลงและผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น


โดยวิธีการทำมาสก์หน้าลดรอยสิวสูตรนี้ก็ให้ ผสมผงอบเชย 1 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 2 สองช้อนชา แล้วคนจนส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นก็ทาเนื้อมาสก์ให้ทั่วผิวหน้าที่สะอาด พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที แล้วล้างออก ซึ่งมาสก์หน้าสูตรนี้สามารถทำเป็นประจำทุกวันเพื่อลดรอยสิวแบบติดสปีดได้เลย

2 มาสก์นมสด + น้ำผึ้ง + ผงขมิ้นชัน

ตามมาดูต่อกับสูตรมาสก์หน้าลดรอยสิวสูตรที่สองอย่าง มาสก์นมสด + น้ำผึ้ง + ผงขมิ้นชัน ที่ยังคงมีส่วนผสมของ “ น้ำผึ้ง ” ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นช่วยเรื่องการสมานแผลและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว รวมพลังมาพร้อมกับ “ นมสด ” ที่อุดมด้วยกรดแลคติก ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและต้านริ้วรอยก่อนวัย ส่วน “ ผงขมิ้นชัน ” ก็มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ พอส่วนผสมทั้งสามอย่างมารวมตัวกันก็จะช่วยลดรอยสิวหรือรอยดำให้แลดูจางลงอย่างเห็นผล


ถึงแม้ว่ามาสก์หน้าสูตรนี้จะมีส่วนผสมหลายอย่าง แต่ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยนะ แค่ผสมผงขมิ้นชัน 1 ช้อนชา นมสด 2 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา คนจนส่วนผสมเข้ากันและเนื้อข้นขึ้น แล้วปาดเนื้อมาสก์ให้ทั่วผิวหน้า พอกทิ้งไว้ 10 - 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า พอมาสก์หน้าด้วยสูตรนี้เป็นประจำ 2 - 3 ครั้ง / สัปดาห์ ก็จะช่วยให้รอยสิว รอยดำ และจุดด่างดำต่างๆ แลดูจางลงไป

3 มาสก์ว่านหางจระเข้

เราเชื่อว่าใครที่เป็นคนชอบเสิร์ชสูตรความงามแบบฉบับ DIY เป็นประจำ ก็คงจะเคยเห็น “ ว่านหางจระเข้ ” ผ่านตากันอยู่บ่อยๆ แน่เลยใช่มั้ยละ??? สาเหตุก็เป็นเพราะว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงและแก้ปัญหาผิวได้หลายอย่าง รวมทั้งคนที่กำลังกังวลใจกับรอยสิวบนผิวหน้าก็สามารถใช้ มาสก์ว่านหางจระเข้ ได้เหมือนกัน เพราะว่านหางจระเข้จะช่วยปลอบประโลมผิว ทาแล้วรู้สึกเย็นสบายผิวสุดๆ พร้อมช่วยต้านการอักเสบของผิว นอกจากนี้ในว่างหางจระเข้ยังมีซัลเฟอร์และกรดซาลิไซลิก ที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและลดรอยสิวให้แลดูจางลงด้วยนั่นเอง


วิธีการ DIY มาสก์ว่านหางจระเข้ก็ให้ นำเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับผงขมิ้นชัน 1 ช้อนชา พอคนส่วนผสมจนเข้ากันแล้วก็ให้ทาเนื้อมาสก์ให้ทั่วผิวหน้า พอกทิ้งไว้ 10 - 15 นาทีแล้วล้างออก โดยมาสก์หน้าสูตรนี้จะช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการระคายเคืองผิว และแก้ปัญหารอยสิวได้ด้วย

 

4 มาสก์นมอัลมอนด์ + ไข่ขาว

คราวนี้แวะมา DIY สูตรมาสก์หน้าไล่รอยสิวแบบง่ายๆ จากวัตถุดิบที่หาได้จากในห้องครัวบ้างดีกว่าค่ะ เพราะสูตรนี้เป็น มาสก์นมอัลมอนด์ + ไข่ขาว ที่สาวๆ จะได้รับประโยชน์จากทั้งวิตามินซีและสารฝาดสมานจาก “ นมอัลมอนด์ ” และ “ ไข่ขาว ” ช่วยเรื่องการควบคุมความมันส่วนเกินที่อาจเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดสิว รวมทั้งมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนรอยสิวที่ทิ้งเอาไว้บนผิวหน้าหลังสิวยุบหรือแห้งแล้ว ถือเป็นสูตรมาสก์หน้าที่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวมันและเป็นสิวง่ายมากๆ เลยนะ


หากสาวคนไหนอยากลองมาสก์หน้าลดรอยสิวด้วยสูตรนี้ดูบ้างก็ให้ ผสมนมอัลมอนด์ 2 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ฟอง และน้ำเลมอน 1 ช้อนชา คนจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วผิวหน้า ( แต่เว้นบริเวณผิวรอบดวงตา ) พอกทิ้งไว้ประมาณ​ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า สูตรนี้ให้มาสก์หน้าเป็นประจำ 2 ครั้ง / สัปดาห์ เพื่อช่วยลดเลือนรอยสิวให้แลดูจางลงเร็วขึ้นกว่าเดิม

5 มาสก์น้ำมันมะกอก + เลมอน

มาสก์น้ำมันมะกอก + เลมอน ก็เป็นอีกหนึ่งสูตรมาสก์หน้าลดรอยสิวที่สามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายๆ จากในห้องครัวค่ะ แต่เราแนะนำให้สาวๆ เลือกใช้ “ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ” หรือ “ Extra Virgin Olive Oil ” มาใช้เป็นส่วนผสมจะดีที่สุด เพราะน้ำมันมะกอกชนิดนี้อุดมด้วยวิตามินปริมาณสูงและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องการฟื้นบำรุงและซ่อมแซมผิว พร้อมทั้งปกป้องผิวจากแบคทีเรียตัวร้ายที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิว ส่วน “ เลมอน ” ก็ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและขจัดสารพิษออกจากรูขุมขน ผลลัพธ์ที่ได้หลังมาสก์หน้าสูตรนี้เป็นประจำก็คือผิวแข็งแรงและดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน


วิธี DIY มาสก์หน้าสูตรนี้ให้ ผสมน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเลมอน 2 - 3 หยด และน้ำเปล่าใส่ในถ้วย แล้วนำส่วนผสมไปอุ่นและวางทิ้งไว้จนคลายความร้อน จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วผิวหน้า พอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ใช้สำลีเช็ดเนื้อมาสก์ออกแล้วล้างหน้าให้สะอาดได้เลย

6 มาสก์กล้วยหอม

สาวๆ มีใครชอบกิน “ กล้วยหอม ” เหมือนกันบ้างรึเปล่าคะ ยกมือขึ้นให้ดูหน่อยเร็ววว! ขอให้รู้ไว้เลยนะว่ากล้วยหอมเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยคุณประโยชน์มหาศาล ทั้งกินแล้วอิ่มท้องนาน มีไฟเบอร์ปริมาณสูงที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย แถมยังมีประโยชน์เรื่องการบำรุงผิวพรรณอีกต่างหากนะ เพราะกล้วยหอมมีทั้ง วิตามินเอที่ช่วยลดเลือนรายดำ รอยสิว และจุดด่างดำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น / วิตามินบีที่ช่วยลดปัญหาผิวแห้งกร้านหรือผิวหยาบกระด้าง / วิตามินอีที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและป้องกันริ้วรอยก่อนวัย และโพแทสเซียมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ ซึ่งคนที่มีปัญหารอยสิวก็สามารถ DIY มาสก์กล้วยหอม เพื่อลดเลือนรอยสิวและเรียกคืนผิวเนียนใสง่ายๆ ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน


ส่วนผสมที่ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับสูตรมาสก์กล้วยหอมก็คือ กล้วยหอมปั่นละเอียด 1 ลูก โยเกิร์ต ¼ ถ้วย และน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมมาคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็ทาให้ทั่วผิวหน้าด้วยแปรงแต่งหน้า พอกทิ้งไว้ 10 - 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น หลังจากมาสก์หน้าด้วยสูตรนี้แล้วจะสัมผัสได้เลยว่าผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น และหากทำเป็นประจำก็จะช่วยให้ผิวเนียนใสไร้รอยสิว

7 มาสก์เปลือกส้ม

าให้ลองจินตนาการถึงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน กัดแล้วฉ่ำน้ำ กินเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่นแบบสุดๆ สาวซิสจะนึกถึงผลไม้ชนิดไหนเป็นอันดับแรกกันคะ?! เรามั่นใจว่าหลายคนจะต้องนึกถึง “ ส้ม ” อย่างแน่นอน แล้วรู้รึเปล่าว่านอกจากส้มจะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีปริมาณสูง ที่กินแล้วช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงและไม่เจ็บป่วยง่ายๆ แล้ว ในส้มยังอุดมด้วยเรตินอลที่ทำหน้าที่เป็นสารผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ กระตุ้นให้เกิดผิวใหม่ที่ดูเปล่งปลั่งสดใสแบบไร้รอยสิวหรือจุดด่างดำ ที่สำคัญส้มยังมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้าย ผ่านกระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิวด้วยนั่นเอง

โดยวิธีทำ มาสก์เปลือกส้ม ให้สาวๆ ผสมผงเปลือกส้ม 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด 1 ช้อนชา แล้วคนจนส่วนผสมเข้ากันและเริ่มข้นขึ้น จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วผิวหน้า พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า พอมาสก์หน้าด้วยสูตรนี้เป็นประจำ 2 ครั้ง / สัปดาห์ รอยสิวบนผิวหน้าก็จะค่อยๆ แลดูจางลง

สาระน่ารู้



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น